Saturday, June 30, 2012

ลักษณะโดยทั่วไปของไส้เดือน

 
การจำแนกประเภทของไส้เดือน
  จำแนกตามลักษณะการอยู่อาศัย ได้ 3 ประเภท(กลุ่ม)
 1) ประเภทอาศัยอยู่หน้าดิน (Soil Surface Dweeing Or Compost Preferring Species)
 2) ประเภทอาศัยอยู่ในดินชั้นบน (Topsoil  Dweeing Species) พบในดินลึก 20-30 ซม.
 3) ประเภทอาศัยอยู่ในดินชั้นล่าง (Supsoil  Dweeing Species) พบในดินลึก ถึง 3 เมตร

ไส้เดือนดิน หรือที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า ไส้เดือน (อังกฤษ: Earthworm) เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในไฟลัมแอนเนลิดา ในอันดับย่อย Lumbricina มีลักษณะลำตัวเป็นข้อปล้อง

พบได้ทั่วไปในดิน ใต้กองใบไม้ หรือใต้มูลสัตว์[1] เป็นสัตว์ที่มี 2 เพศในตัวเดียวกัน แต่มีการสืบพันธุ์แบบทั้งอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ

ปัจจุบันพบทั่วโลกประมาณ 4,400 ชนิด โดยแบ่งออกได้ตามลักษณะแหล่งที่อยู่อาศัย

1.กลุ่มอาศัยอยู่บริเวณหน้าดิน

2.กลุ่มอาศัยในดินชั้นบน ที่มีความลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร

3.กลุ่มอาศัยในดินชั้นล่าง ที่มีความลึกประมาณ 2-3 เมตร

ไส้เดือนเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบนิเวศ เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการย่อยอินทรียสารในดิน และการเคลื่อนที่ในดินของไส้เดือน ถือเป็นการพรวนดิน

ทำให้ดินมีช่อวว่างที่จะเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่ดิน ซึ่งมีความสำคัญต่อการปลูกพืช อีกทั้งยังใช้ในการผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพจากไส้เดือนอีกด้วย และนอกจากนี้แล้ว

ไส้เดือนยังเป็นที่นิยมอย่างยาวนาน ใช้เป็นเหยื่อสำหรับตกปลา

ปัจจุบัน มีการเพาะเลี้ยงไส้เดือนเป็นอาชีพ และมีการเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับไส้เดือนให้มากและกว้างขึ้น

ไส้เดือนชนิดที่มีความยาวที่สุดในโลก ได้ถูกบันทึกไว้โดยหนังสือกินเนส คือ ไส้เดือนยักษ์แอฟริกา จัดเป็นไส้เดือนที่อาศัยอยู่ในดินที่ลึก มีความยาวสูงสุด 6.7 เมตร[2][3]






การจำแนกไส้เดือนดิน

ไส้เดือนดินจัดอยู่ในอาณาจักรสัตว์ (Animalia) ไฟลัมแอนนิลิดา (Phylum: Annelida) ชั้นโอลิโดซีตา (Class: Oligochaeta) ตระกูลโฮพิสโธโพรา (Order: Opisthopora)

สำหรับวงศ์ (Family) ของไส้เดือนดินนั้น มีนักวิทยาศาสตร์หลายท่านได้จัดจำแนกไส้เดือนดินออกเป็นวงศ์ที่แตกต่างกัน 21 วงศ์ (Renolds and Cook, 1993) และมีมากกว่า

8,000 สายพันธุ์ (Species) (Edwards, 2004)

ลักษณะทั่วไปของไส้เดือนดิน

ไส้เดือนดินเป็นสัตว์ที่พบได้ทั้วไปในดิน กองปุ๋ยหมัก ริมริ่งระบานน้ำใต้กองมูลสัตว์ ใต้ขอนไม้ผุ และในบริเวณต่างๆ ที่มีแหล่งอาหารและความชื้นเพียงพอต่อการดำรงชีวิต

ไส้เดือนดินแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ไส้เดือนดินสีแดง และไส้เดือนดินสีเทาไส้เดือนดินสีแดง มีขนาดลำตัวเล็ก มีสีแดง อาศัยอยู่บริเวณผิวดินที่มีอาหารและความชื้นสูงตลอดปี กิน

อาหารเก่งและออกลูกมากเหมาะสำหรับใช้ย่อยสลายขยะอินทรีย์ ไส้เดือนดินสีเทา อาศัยอยู่ในดิน ขุดรูอยู่ กินอาหารน้อยและออกลูกน้อย

นอกจากนี้สามารถแบ่งไส้เดือนดินโดยอาศัยพื้นฐานด้านความแตกต่างของที่อยู่อาศัย นิสัยการกินอาหาร และระดับความลึกของชั้นดินในแนวดิ่ง ได้เป็น 3 กลุ่มย่อย ดังต่อไปนี้

1.    กลุ่มไส้เดือนดินผิวดิน (Epigeic) เป็นไส้เดือนดินที่เลือดมีรงควัตถุ (ไส้เดือนดินสีแดง) ลำตัวขนาดเล็กยาว 2-5 นิ้ว อาศัยบริเวณผิวดินที่มีอินทรียวัตถุมาก ความชื้นสูง

ตลอดปี ไม่มีการขุดรู กินอาหารเก่ง และแพร่พันธุ์ได้มาก เป็นกลุ่มไส้เดือนดินที่ใช้ย่อยสลายขยะอินทรีย์ในการผลิตปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน ได้แก่พันธุ์ขี้ตาแร่ พบอาศัยใต้กองมูลวัว

นม และในบริเวณพื้นที่ซักล้างที่มีเศษอาหารในบ้านเรือน

2.    กลุ่มไส้เดือนดินในดิน (Endogeic) เป็นไส้เดือนดินที่เลือดไม่มีรงควัตถุ (ไส้เดือนดินสีเทา) มีขนาดลำตัวใหญ่กว่าไส้เดือนดินในกลุ่มผิวดิน อาศัยอยู่ในดินทั่วไป หรือกอง

ปุ๋ยหมัก มีการขุดรูในแนวระนาบผิวดินไม่ลึกมาก กินอินทรียวัตถุและดินเป็นอาหาร มีอัตราการแพร่พันธุ์น้อยกว่าไส้เดือนดินในกลุ่มผิวดิน และมีการพักตัวในช่วงหน้าแล้ง

ไส้เดือนดินกลุ่มนี้ไม่เหมาะต่อการใช้ย่อยสลายขยะอินทรีย์

3.    กลุ่มไส้เดือนดินในดินลึก (Anecic) เป็นไส้เดือนดินที่เลือดไม่มีรงควัตถุ(ไส้เดือนดินสีเทา) เป็นไส้เดือนดินที่มีลำตัวขนาดใหญ่และบางชนิดยาวมาก ไส้เดือนดินยักษ์ใน

ประเทศออสเตรเลีย ยาวมากกว่า 2 เมตร ขุดรูถาวรในแนวดิ่งลึกลงไปในดินชั้นแร่ ตอนกลางคืนจะขึ้นมาที่ผิวดินและลากอาหารลงไปในรู แพร่พันธุ์ได้น้อยมาก เจริญเต็มวัยช้า

มีอายุหลายปี และมีการพักตัวในช่วงหน้าแล้ง ไม่เหมาะต่อการใช้ย่อยสลายขยะอินทรีย์
ซึ่งนอกจากกลุ่มไส้เดือนดินที่ได้จัดจำแนกดังกล่าว ยังมีไส้เดือนดินบางชนิดที่อาศํยอยู่ในที่พิเศษอื่นๆ ซึ่งพบได้น้อยในดินหรือในขยะหรือในสภาพแวกล้อมทั่วไป เช่น ไส้เดือน

ดินพวกที่อาศัยอยู่ใต้เปลิอกไม้ ท่อนซุงที่เน่าเปื่อย ในรากพืช หรือใต้พืชจำพวกมอส และซอกใบไม้ของต้นไม้ในป่าเขตร้อนที่ยังไม่ได้จำแนก

วิธีการจักจำแนกไส้เดือนดินอย่างง่ายสามารถสังเกตได้จาก

1.    ขนาดและความยาวของลำตัว
2.    สีหรือแถบสีของลำตัว
3.    แหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหาร

ในลำดับแรกจะแบ่งกลุ่มไส้เดือนดินเป็น 2 กลุ่มใหญ่ก่อน คือ ไส้เดือนดินสีแดง และไส้เดือนดินสีเทา แล้วจึงพิจารณาขนาดความยาวของลำตัว ถิ่นที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหาร

ในลำดับถัดไป

No comments:

Post a Comment